ข่าวเรื่องไวรัสสายพันธุ์ดุ เหมือนสุนัขร๊อดไวลอร์ที่ไล่ตามกัดคนที่ตกเป็นเหยื่ออย่างน่ากลัวได้ออกมาเป็นช่วงๆ เราเคยตื่นตระหนกกับข่าวไรวัสที่เกิดขึ้นใหม่ หรือที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงถึงขั้นคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อลงได้มาแล้วในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ไวรัส HIV เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อม หรือโรคเอดส์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนหรือ ไวรัสต่างๆที่เกิดขึ้นตามยุคตามสมัย จนมาล่าสุดไวรัสอิโบล่า ที่กำลังสร้างความแตกตื่นให้กับคนในโลก ซึ่งเป็นธรรมเนียมของการเปิดตัวไวรัสที่แจ้งเกิดให้โลกได้รู้จัก และได้ถูกต้อนรับด้วยเสียงกรี๊ดอย่างหวาดผวาและกลายเป็นดาวเด่นประดับวงการไวรัส และขึ้นทำเนียบ Hall of flame ไวรัสพันธฺุ์ไหนร้ายแรงที่สุด และหาทางรักษาได้ยากที่สุด หรือ มีอานุภาพทำลายเว็ลล์ในร่างกายได้มากที่สุดและรวดเร็วที่สุดจะกลายเป็นดาวเด่นที่สุดของวงการไวรัส แต่เชื่อไหมครับว่า ไวรัสที่เราได้รู้จักตั้งแต่ในยุคอารยธรรมมนุษย์ได้ก่อกำเนิดขึ้นตั้งแต่ยุตเมโสโปเตเมีย เรื่อยมาจนผ่านยุตหินเก่า ยุคหินใหม่ ยุตสำริต ยุตเหล็ก จวบจนยุคเทคโนโลยี่ข่าวสาร เหมือนในยุคปัจจุบันนี้ ไวรัสทุกตัวที่ออกมาอวดโฉมให้ชาวโลกได้เชยชมนั้น จะเทียบชั้นไม่ได้เลยกับ ไวรัสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งโลกจะได้ยลโฉมไวรัสนี้ ที่ชื่อว่า "ไวรัสทีเรีย" ซึ่งจะเป็นดาวเด่นเหมือน เอวิส เพลสลีย์ เป็นดาวเด่นอมตะแห่งวงการเพลงร็อคแอนด์โลว์ที่ไม่มีใครทาบชั้นได้และนี่คือ เรื่องราวของ ไวรัสสายพันธู์โหดที่สุดของมนุษยชาติที่จะได้เผชิญ จนไวรัสที่เราแตกตื่นในวันนี้เมื่อเทียบกับเจ้าพ่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้แล้ว เป็นเพียงแค่ไรฝุ่นไปเลย มันเกิดขึ้นได้อย่างไรมันจะเกิดเมื่อไหร่*มันโหดร้ายกว่าไวรัสทุกตัวอย่างไร มันมีทางแก้ไขและป้องกันไหม และข้อความข้างล่างนี้ คือคำตอบทั้งหมด
เนื้อหาถูกซ่อนไว้
อย่างที่ผมได้เขียนถึงเรื่องของไวรัสนั้น เป็นเครื่องมือของธรรมชาติที่ไว้ชำระล้างจิตของคนในโลกให้เกิดความสมดุล
ยิ่งความเป็นไปของจิตสำนึกรวมหมู่ของคนในโลก ( collective conciousness ) ยิ่งตกต่ำไปในทางกิเลสตัณหามากเท่าไหร่
เครื่องมือของธรรมชาติในหมวดหมู่ของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อไวรัส จะมีอานุภาพการทำลายล้างเซลล์ในร่างกายของคนมากเท่านั้น
ดังนั้นความรุนแรงของสายพันธุ์ไวรัสที่ปรากฎขึ้นในยุคหนึ่งๆจะแปรผันตรงกับจิตสำนึกรวมหมู่ของคนในโลกขณะนั้น
และในกระบวนการดำเนินไปของจักรวาล หรือในโลกเรานี้ จะเข้าสู่ความเสื่อมลงของจิตสำนึกของคนลงไปเรื่อยๆ
ความแปรปรวนต่างๆของจิต ย่อมส่งผลต่อการแปรปรวนของธรรมชาติและ โรคร้ายต่างๆก็เกิดขึ้น
ปัจจุบันนี้เข้าสู่ยุคมืดหรือ กลียุต และจะเสื่อมถอยลงสู่ยุต มิคสัญญี หรือ ยุคที่ศาสนาเสื่อมไปเกือบหมด
และกิเลสตัณหาของคนในโลกเพิ่มพูนขึ้น
และในยุคมิคสัญญีนี้เอง จะเกิดไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรงที่สุด คือ ไวรัสทีเรีย
ซึ่งมันจะแพร่ไปในอากาศ และเข้าสู่ระบบการหายใจของมนุษย์ และผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสนี้
จะต้องเสียชีวิตภายใน 3 นาที !!
และที่น่ากลัวคือ มันจะแพร่ไปทางอากาศโดยอาศัยลมพัดพาไป มันจึงยากต่อการควบคุม
เพราะการควบคุมสายลมนั้นแทบเป็นไปได้ยาก ไม่เหมือนไวรัสในปัจจุบันที่ติดต่อจากคนสู่คน หากจำกัดผู้มีเชื้อไว้ได้
ก็สามารถจำกัดการแพร่ของไวรัสได้
จะมีมนุ่ษย์โลกมากมายต้องจบชีวิตไปกับเชื้อไวรัสนี้ ในยุคแห่งมิคสัญญี
ทางแก้ไขนั้นหรือป้องกันแทบจะเป็นไปได้ยาก นอกจากหลีกเลี่ยงไปอยู่ในสถานที่เป็นแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์เท่านั้น
เพราะมันเป็นการชำระครั้งสุดท้ายของยุคอารยธรรมมนุษย์ที่มีกิเลสครองใจ
หลังจากหมดยุคมิคสัญญีแล้ว ทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปกติ และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่คนชั่วจะค่อยหมดไป
และจิตสำนึกรวมหมู่ของคนในโลกเริ่มเป็นบวกมากขึ้นเรื่อยๆ ไวรัสทีเรียจะหมดบทบาทลง
เพราะมันแปรผันความรุนแรงไปตามจิตสำนึกรวมหมู่เท่านั้น
หากเราเข้าใจกลไกของธรรมชาตินี้แล้ว เราจะไม่ตื่นตะหนกมากนัก
และระหว่างโลกเคลื่อนไปสู่ยุคมิคสัญญี เราจะได้ข่าวไวรัสสายพันธุ์อื่นออกมาเรื่อยๆ
เพราะมันจะค่อยๆกลายพันธุ์ตัวเองไปสู่ความเป็นไวรัสทีเรียในยุคสุดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น